แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 51
1
โครงหน้าเบี้ยว สามารถเข้ารักษาด้วยการจัดฟันเด็กด้วยโปรแกรม EF Line ได้หรือไม่

การจัดฟันในเด็กด้วยโปรแกรม EF Line ไม่สามารถรักษาโครงหน้าเบี้ยวได้

โปรแกรม EF Line เป็นเครื่องมือจัดฟันที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขความผิดปกติของโครงสร้างฟันและขากรรไกรในเด็กที่ยังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ไม่ได้ใช้รักษาโครงสร้างใบหน้าที่เบี้ยวไปแล้ว

หากบุตรหลานของคุณมีปัญหาเรื่องโครงหน้าเบี้ยว ควรพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง


EF LINE คืออะไร

EF Line (Elastodontic Fine Line) เป็นเครื่องมือจัดฟันในเด็กที่ทำจากวัสดุที่นุ่มและยืดหยุ่น ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบางอย่าง เช่น การหายใจทางปาก การกลืนที่ไม่ถูกต้อง หรือการดูดนิ้ว  ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลต่อการพัฒนาของขากรรไกรและฟันในระยะยาว

การแก้ไขปัญหาโครงหน้าเบี้ยว
การรักษาโครงหน้าเบี้ยวต้องใช้การรักษาที่ซับซ้อนกว่าการจัดฟันโดยปกติ การรักษาอาจต้องใช้การจัดฟันร่วมกับ การผ่าตัดขากรรไกร โดยเฉพาะในกรณีที่ปัญหาเกิดจากความผิดปกติของกระดูก


สำคัญ: ปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทาง

หากบุตรหลานของคุณมีปัญหาโครงหน้าเบี้ยว ควรพาไปปรึกษา ทันตแพทย์จัดฟันเฉพาะทาง เพื่อตรวจประเมินปัญหาที่ถูกต้องและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งแพทย์จะสามารถพิจารณาว่าสามารถรักษาได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว หรือจำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีที่ซับซ้อนมากขึ้น

2
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


3
ดอกบัวในโถแก้ว: วิธีทำดอกไม้แห้งง่ายๆ เก็บดอกไม้และความทรงจำให้ชัดเจน

4 วิธีทำดอกไม้แห้งง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน เพื่อให้เราได้นำดอกไม้ที่ได้รับมาในโอกาสพิเศษต่างๆ จะปล่อยให้ร่วงโรยจนต้องทิ้งไปในที่สุดก็น่าเสียดายมากๆจริงไหมคะ ขอแนะนำให้คุณใช้ 4 วิธีนี้ในการเก็บรักษาดอกไม้ ช่วยเก็บรักษาความทรงจำและช่วงเวลาดีๆ ในตอนที่ได้รับดอกไม้ได้อย่างดีเลยค่ะ


4 วิธีทำดอกไม้แห้ง

ดอกไม้แห้งจากสเปรย์เซ็ตผม
    ดอกไม้แห้งจากการตากแบบคว่ำหัว
    ดอกไม้แห้งจากการทับดอกไม้
    ดอกไม้แห้งจากสารดูดความชื้น


ดอกไม้แห้งจากสเปรย์เซ็ตผม

วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับการเก็บรักษาดอกไม้สดก็คือการใช้สเปรย์เซ็ตผมมาฉีดไปที่ดอกไม้นั่นเองค่ะ เป็นสิ่งของที่หลาย ๆ คนมีติดบ้านกันอยู่แล้ว และหาซื้อไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่นำสเปรย์เซ็ตผมที่มาฉีดลงบนดอกไม้ให้ทั่ว 2-3 รอบ ก็จะช่วยถนอมดอกไม้ของเราให้เก็บได้นานขึ้นแล้วค่ะ โดยจะต้องดูให้มั่นใจเลยนะคะว่าฉีดสเปยร์จนทั้วทุกซอกทุกมุมของดอกไม้แล้ว

ในการเลือกสเปรย์เซ็ตผมนั้น หากเป็นสเปรย์ที่ไม่ได้มีความมันวาวก็จะทำให้ดอกไม้ยังดูเป็นธรรมชาติอยู่นะคะ แต่ใครที่ชอบความวาวล่ะก็ จะเลือกใช้สเปรย์เซ็ตผมที่ทำให้มีความมันวาวก็ได้เหมือนกันค่ะ แถมการใช้สเปรย์เซ็ตผมมาฉีด นี้ยังใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายร่วมกับวิธีการทำดอกไม้แห้งอีกสามวิธีที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ได้อีกด้วยนะคะ


ดอกไม้แห้งจากการตากแบบคว่ำหัว

วิธีการตากดอกแบบคว่ำหัวเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆในการตากแห้งดอกไม้ แต่วิธีนี้ จะใช้เวลานานสักหน่อยนะคะ วิธีการตากแห้งดอกไว้แบบคว่ำก็ง่ายมากๆ เพียงแค่เราถูกก้านของดอกไม้เข้าไม้ด้วยกันเป็นช่อเล็กๆ หรือจะเป็นดอกเดี่ยวๆ ก็ได้ แล้วนำมาผูกขึงให้ห้อยหัวลงไว้ แล้วนำไปตั้งตากในที่ที่มีแดดและอากาศถ่ายเทสะดวกแล้วรอจนดอกไม้แห้งก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ

วิธีนี้ช่วยให้คงความงามของรูปทรงดอกไม้ได้ดี ดอกไม้ที่เหมาะจะนำมาทำให้แห้งด้วยวิธีนี้คือดอกไม้ที่มีกลีบค่อนข้างหนา เพราะดอกไม้ที่มีกลีบบางเมื่อนำมาตากแบบนี้ กลีบอาจจะหลุดร่วง หรือไม่ก็เหี่ยวย่นไม่สวยงามค่ะ ระยะเวลาในการตากนั้นจะขึ้นอยู่กับความหนาและขนาดของดอกไม้ รวมถึงสภาพอากาศด้วยค่ะ  และเมื่อตากจนแห้งแล้ว นำสเปรย์เซ็ตผมมาฉีดทับเพื่อทำให้ดอกไม้แห้งมีความทนทานมากขึ้นได้อีกนะคะ


ดอกไม้แห้งจากการทับดอกไม้

ดอกไม้แห้งจากการทับดอกไม้เป็นการทำดอกไม้แห้งนั้นถือเป็นวิธีสุดคลาสสิคในการเก็บดอกไม้ให้เป็นดอกไม้แห้ง โดยจะใช้หนังสือหรือสมุดหนาๆในการทับนั่นเองค่ะดอกไม้ที่ได้จะไม่ได้คงรูปทรงของดอกไม้ แต่จะมีความแบนแทนนะคะ

วิธีทำก็ง่ายมากๆ หากจะทับดอกไม้ในหนังสือล่ะก็ แค่เลือกหนังสือที่มาความหนาและหนัก และมีกระดาษด้านๆ ไม่มันวาวก็พอค่ะ หากใครที่ไม่มีหนังสือล่ะก็ เพียงแค่นำดอกไม้มาวางเรียงบนกระดาษที่มาความด้าน แล้วนำกระดาษอีกใบมาวางกระกบ แล้วทับด้วยของที่มีน้ำหนักกระจายเท่ากันทั่วๆอย่างกล่องใส่ของหรือไม้กระดานก็ได้นะคะ


ดอกไม้แห้งจากสารดูดความชื้น

วิธีสุดท้ายในของการทำดอกไม้แห้งก็คือการนำดอกไม้สดมาเก็บหรือแช่กับสารดูดความชื้น หรือ ซิลิก้าเจล (Silica Gel) นั่นเองค่ะ ซึ่งการสูดความชื้นนี้เราสามารถหาได้ตามถุงขนมหรือของใช้ต่างๆนั่นเอง หรือจะหาซื้อตามร้านทำสวน หรือร้านอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ก็ได้เช่นกันค่ะ แม้จะมีราคาสูงสักหน่อย แต่สามารถใช้ได้หลายครั้ง คุ้มค่าแน่นอนค่ะ

วิธีทำก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่เรานำซิลิก้าเจลมาใส่ในกล่องที่มาฝาปิดแล้วนำดอกไม้ที่เราอยากจะทำให้แห้งมาแช่ไว้ในกล่องนั้นให้โคนดอกไม้ หรือ ทั้งดอกไม้จมลงไปในซิลิก้าเจลเลยนะคะ เมื่อแช่ไว้จนดอกไม้แห้งแล้วก็ให้นำออกมาแล้วปัดซิลิก้าเจลออกให้หมดด้วยแปรงก็เป็นอันเสร็จ ส่วนระยะเวลาในการแช่ดอกไม้ในสารดูดความชื้นนั้นจะใช้เวลาประมาณ 2-4 วัน หรือถ้าดอกไม้มีความหนาและขนาดใหญ่มากๆ ก็อาจจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์ได้ค่ะ แต่ถ้าใครอยากจะฉีดสเปรย์ทับลงไปสักหน่อยเพื่อให้ดอกไม้แห้งทนทานมากขึ้นก็ทำได้เลยค่ะ

หวังว่าเพื่อนๆจะชอบวิธีการทำดอกไม้แห้งที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้กันนะคะ แต่ละวิธีเราคัดเลือกมาแล้วว่าทำง่ายมากๆ แถมวัสดุอุปกรณ์ก็หาง่ายด้วยนะคะ ไม่ยุ่งยากเลยจริงๆ อย่าลืมนำวิธีพวกนี้ไปใช้ในการเก็บรักษาดอกไม้ที่ได้จากคนสำคัญกันนะคะ เพื่อให้ได้เก็บภาพความทรงจำและเวลาดีๆไว้ในดอกไม้แห้งนั่นเอง

4
สร้างอาชีพ: การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อคเชนเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าในการทำการตลาดออนไลน์

ธุรกิจต่างแสวงหาวิธีการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและสร้างความไว้วางใจ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงโลกมากที่สุดอย่างหนึ่งที่กำลังสร้างกระแสในการตลาดออนไลน์คือบล็อคเชน ซึ่งเดิมทีถูกพัฒนาขึ้นสำหรับสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin ต่อมาเทคโนโลยีบล็อคเชนก็ได้พัฒนาจนกลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ให้ความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการโต้ตอบแบบดิจิทัล

นี่คือวิธีที่บล็อคเชนสามารถใช้ประโยชน์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่และดีขึ้นสำหรับลูกค้าในการทำการตลาดออนไลน์
ตรวจสอบย้อนกลับที่มาของสินค้า: Blockchain ช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบย้อนกลับที่มาของสินค้าได้ ตั้งแต่แหล่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต จนถึงการขนส่ง ทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้ามากขึ้น

ข้อมูลรีวิวที่เชื่อถือได้: รีวิวสินค้าบน Blockchain จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขหรือลบได้ ทำให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่แท้จริงและเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อ

1. การเพิ่มความโปร่งใสและความไว้วางใจ
ในปัจจุบัน ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความถูกต้องของข้อมูลมากกว่าที่เคย บล็อคเชนมอบบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจที่รับรองความโปร่งใสในการทำธุรกรรมและการโต้ตอบ ด้วยการใช้บล็อคเชน ธุรกิจต่างๆ สามารถตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ บริการ และแม้แต่การอ้างสิทธิ์ทางการตลาดได้ ตัวอย่างเช่น แบรนด์แฟชั่นสามารถใช้บล็อคเชนเพื่อติดตามแหล่งที่มาของวัสดุ โดยมอบหลักฐานที่ตรวจสอบได้เพื่อพิสูจน์แหล่งที่มาอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้า

2. การรักษาความปลอดภัยข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
ด้วยความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต เทคโนโลยีบล็อคเชนจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับการจัดการข้อมูลลูกค้า ซึ่งแตกต่างจากฐานข้อมูลรวมศูนย์แบบเดิม โครงสร้างแบบกระจายอำนาจของบล็อคเชนทำให้แฮกเกอร์แทบจะไม่มีทางเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ บริษัทต่างๆ สามารถใช้ระบบยืนยันตัวตนที่ใช้บล็อคเชนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในขณะที่ให้ลูกค้าควบคุมข้อมูลของตนได้มากขึ้น

3. ปฏิวัติโปรแกรมสะสมคะแนน
โปรแกรมสะสมคะแนนแบบดั้งเดิมมักประสบปัญหา เช่น คะแนนหมดอายุ ขาดการทำงานร่วมกันระหว่างแบรนด์ และกระบวนการแลกรับที่ซับซ้อน โปรแกรมสะสมคะแนนที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อคเชนช่วยให้สะสมและแลกคะแนนได้อย่างราบรื่นระหว่างผู้ขายหลายราย ลูกค้าสามารถมีกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบรวมศูนย์เพื่อแลกรางวัล เพิ่มการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจของลูกค้า

4. ขจัดการฉ้อโกงโฆษณาและปรับปรุงการโฆษณาดิจิทัล
บล็อคเชนสามารถเพิ่มความโปร่งใสให้กับการโฆษณาดิจิทัลได้มากขึ้นด้วยการตรวจสอบการแสดงผลโฆษณาและการคลิก ป้องกันกิจกรรมฉ้อโกง เช่น การเข้าชมที่ขับเคลื่อนโดยบอต ผู้ลงโฆษณาสามารถมั่นใจได้ว่างบประมาณการตลาดของตนถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยการตรวจสอบว่ามีผู้ใช้จริงดูโฆษณา ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะนำไปสู่ ​​ROI ที่สูงขึ้นและแคมเปญการตลาดที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น

5. อำนวยความสะดวกให้กับสัญญาอัจฉริยะสำหรับธุรกรรมที่ปลอดภัย
สัญญาอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนโดยบล็อคเชนสามารถทำให้ข้อตกลงระหว่างธุรกิจและลูกค้าเป็นระบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง ซึ่งอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในอีคอมเมิร์ซ ซึ่งสัญญาอัจฉริยะที่ใช้บล็อคเชนสามารถรับรองได้ว่าการชำระเงินจะได้รับการปล่อยออกเฉพาะเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้เท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดข้อพิพาท เพิ่มความน่าเชื่อถือ และปรับปรุงการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ

6. การมีส่วนร่วมของลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล
บล็อคเชนสามารถรองรับการจัดการข้อมูลลูกค้าแบบกระจายอำนาจ ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะบุคคลโดยไม่ต้องพึ่งพาตัวรวบรวมข้อมูลของบุคคลที่สาม ลูกค้าสามารถเลือกแบ่งปันข้อมูลของตนกับธุรกิจต่างๆ เพื่อแลกกับข้อเสนอและคำแนะนำแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งจะช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวและการตลาดแบบเฉพาะบุคคล

เทคโนโลยีบล็อคเชนกำลังปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์การตลาดออนไลน์โดยส่งเสริมความโปร่งใส เพิ่มความปลอดภัย และปฏิวัติการมีส่วนร่วมของลูกค้า การบูรณาการบล็อคเชนเข้ากับกลยุทธ์การตลาดช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกับลูกค้า เพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ และขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมในเศรษฐกิจดิจิทัล เมื่อการนำบล็อคเชนมาใช้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทต่างๆ ที่ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของบล็อคเชนจะได้รับความได้เปรียบทางการแข่งขันในการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า


5
หมอประจำบ้าน: กระเพาะอาหารแตก (Gastric Perforation)

กระเพาะอาหารแตก (Gastric Perforation) เป็นภาวะทางการแพทย์ที่อันตรายและฉุกเฉิน ซึ่งหมายถึงการเกิดรูหรือฉีกขาดขึ้นที่ผนังกระเพาะอาหาร ทำให้ของเหลวและอาหารในกระเพาะรั่วไหลเข้าไปในช่องท้อง ก่อให้เกิดการอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรงในช่องท้องได้

สาเหตุหลักที่ทำให้กระเพาะอาหารแตก
แผลในกระเพาะอาหารที่รุนแรง: นี่คือสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด แผลในกระเพาะอาหารที่ไม่ได้รับการรักษาอาจกัดเซาะลึกจนทะลุผนังกระเพาะอาหาร

การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ: การได้รับแรงกระแทกรุนแรงที่หน้าท้อง เช่น อุบัติเหตุรถยนต์ หรือการถูกทำร้าย

การกลืนสิ่งแปลกปลอม: การกลืนวัตถุที่มีลักษณะแหลมคม เช่น กระดูก หรือของมีคมที่อาจทำให้ผนังกระเพาะอาหารได้รับบาดเจ็บ

ผลข้างเคียงจากการรักษา: ในบางกรณีที่พบน้อย อาจเกิดขึ้นจากภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัด หรือจากโรคบางชนิด


อาการของกระเพาะอาหารแตก

อาการมักจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและรุนแรง และเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติที่ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

ปวดท้องรุนแรงอย่างฉับพลัน: เป็นอาการหลักที่สังเกตได้ โดยอาการปวดจะเฉียบพลันและรุนแรงมาก

หน้าท้องแข็งเกร็ง: หน้าท้องจะแข็งและกดแล้วรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก

มีไข้และหนาวสั่น: เป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่เริ่มลุกลาม

คลื่นไส้และอาเจียน

หัวใจเต้นเร็วและหายใจลำบาก


การรักษา

กระเพาะอาหารแตกถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนที่สุด

การผ่าตัดฉุกเฉิน: เป็นการรักษาหลักเพื่อแก้ไขปัญหา โดยศัลยแพทย์จะทำการเย็บปิดรูที่ทะลุ และทำความสะอาดช่องท้องเพื่อกำจัดของเหลวที่รั่วไหลและป้องกันการติดเชื้อ

ยาปฏิชีวนะ: แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ เพื่อรักษาและป้องกันการติดเชื้อในช่องท้อง (Peritonitis) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการปวดท้องรุนแรงอย่างฉับพลัน หน้าท้องแข็งเกร็ง และอาการข้างเคียงอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที เพื่อให้ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องค่ะ

6
รถรับจ้างราคาถูก รถรับจ้างกรุงเทพ บริการครบวงจรราคาดีเจ้านี้ชั่วๆ

รายการให้บริการ รถรับจ้างขนของกรุงเทพ ในทุกๆวันนี้การที่เราได้ให้บริการ รับจับขนของ เดินทางใกล้-ไกล แน่นอนต้องมีอาการง่วงของพนักงานขับรถบ้างในบางเวลาโดยเฉพาะขับรถในช่วงเวลากลางคืน แน่นอนครับทีมงานรถรับจ้างขนของของเราก็มีวิธีการในการจัดการตัวเราเองไม่ให้เกิดการง่วง เพราะเราไม่อยากให้การง่วงเป็นจุดเริ่มต้นของ เกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างทางอย่างแน่นอนเพราะสิ่งที่ตามมานั้น เป็นอะไรที่คาดเดายากว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราหรือแม้กระทั่งสินค้าของ

ลูกค้า ทีมงาน รถรับจ้าง เราให้บริการรถรับจ้างที่มากมายหลากหลายชนิด กับรถรับจ้างทุกประเภท และที่สำคัญเราจะเน้นเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางเป็นอย่างมาก จะหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด บางงานจะขนย้ายในช่วงเวลากลางคืน เพราะเราต้องการที่จะบริการลูกค้าให้ได้ทั่วถึง เพราะบางครั้งลูกค้าในความจำเป็นที่ต้องขนย้ายในช่วงเวลากลางคืน แต่แน่นอนครับเราก็มีทีมงานไว้คอยบริการในช่วงเวลากลางคืนอยู่แล้ว เรามีรถให้บริการไปตั้งแต่ รถกระบะรับจ้างขนของ

รถหกล้อรับจ้างขนของ รถสิบล้อรับจ้างขนของ รถเฮียบรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง การขับรถที่ทำให้ง่วง ทางพนักงานขับรถของเรา จะมีวิธีการในการแก้ไข ยังไงบ้างมาอ่านดูกัน

1.ก่อนรับงานรับจ้างขนของ จะต้องนอนพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงขึ้นไป

2.ไม่ดื่มเหล้าก่อน หรือ ขณะขับรถในระหว่างการรับจ้างขนของให้กับลูกค้า

3.หากรู้สึกว่าง่วงขณะขับรถให้ทำการจอดพักอย่างน้อย 30 นาที แล้วค่อยเดินทางต่อ

4.หากรู้สึกว่าเริ่มง่วง อาจจะกินกาแฟ เพื่อช่วยอาการง่วงได้อีกระดับหนึ่ง

5.ปิดแอร์แล้วเปิดกระจกเพื่อรับอากาศ จากภายนอกรถให้ร่างกายรู้สึกเย็น จะทำให้อาการหายง่วงดีขึ้น

6.ถ้ามีเพื่อนร่วมทางไปด้วยให้ชวนเพื่อนคุยในขณะขับรถ เพื่อให้ร่างกาย และสติมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น

7.เปิดเพลงเร็วๆแรงๆ หรือร้องเพลงขณะขับรถไปด้วยทำให้ สมองเกิดการกระตุ้นลดการง่วงนอน

นี่ก็เป็นอีกวิธีง่ายๆที่เราสามารถจัดการกับการง่วงนอนขณะขับรถได้ รถรับจ้างขนของ ของเรา แต่ละท่านก็ยังมีเทคนิคที่แตกต่างกันไปแต่อย่างน้อยก็ช่วยในเรื่องของลดการเกิดอุบัติเหตุได้เพราะการง่วงนอนหรืออาการหลับในเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากสำหรับการขับรถไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล รถรับจ้างกรุงเทพ  งานเราจะเน้นงานให้มีความปลอดภัยซึ่งหมายถึงปลอดภัยทั้งพนักงานขับรถและสินค้าของลูกค้า ดังนั้นสิ่งที่มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายเราจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด

ดังนั้นแล้วสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ รถรับจ้างขนของ ของเราไม่ว่าจะขนของในกรุงเทพฯเขตปริมณฑลหรือ ขนของวิ่งไปต่างจังหวัด ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เรามีรถรับจ้างไว้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมงทั่วประเทศไทย ลองโทรเข้ามาศึกษารายละเอียดกันได้ ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน
ก็สามารถ เช็คราคา ค่าบริการและพูดคุยรายละเอียดพร้อมคำแนะนำที่ดีจากทีมงานรถรับจ้างของเราสุดท้ายนี้ รถรับจ้างขนของ  ให้บริการ รถรับจ้างขนของตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี

ทางเรารู้สึกยินดีและดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งและสามารถช่วยงานขนย้ายสินค้าให้กับท่านได้ไว้ว่างานนั้นจะเป็น ขนย้ายบ้าน ขนย้ายสินค้าทั่วไป วัตถุดิบทางการเกษตร ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายเครื่องจักร หรือสินค้าที่เกี่ยวกับ เครื่องอุปโภคบริโภค รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง และ รถรับจ้างทั่วไป เราพร้อมยินดีให้

รถรับจ้างกรุงเทพ บริการท่านตลอด
บริการเสริมการบริการสำหรับท่าน ไหนที่เดินทางไปต่างจังหวัดแล้วไม่มีความชำนาญในเส้นทางการเดินทาง สามารถใช้ รถรับจ้างจังหวัดกรุงเทพ และ โทรเข้ามาสอบถามเราได้ที่เบอร์นี้แล้วสามารถ เราเปรียบเสมือน เนวิเกเตอร์ เครื่องบอกเส้นทางการเดินทางให้กับท่านได้ ว่าตอนนี้ท่านอยู่จุดไหนและท่านต้องการเดินทางไปที่ไหนเราจะมีข้อมูลไว้คอยบริการท่านโทรมาสอบถามได้เลยเรายินดีให้บริการไม่ใช่เฉพาะลูกค้ารถรับจ้างขนของเท่านั้น เราสามารถให้บริกรให้ได้

7
วิธีตรวจสอบสภาพจราจรก่อนการเดินทาง ไปกับ รถรับจ้างขนย้ายบ้าน

การเดินทางในประเทศไทยสามารถเผชิญกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับสภาพจราจรที่แปรปรวนได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องใช้บริการรถรับจ้างขนของในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย เพื่อให้การเดินทางราบรื่นและตรงตามเวลา การตรวจสอบสภาพจราจรเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

ขนส่ง จะนำเสนอวิธีการตรวจสอบสภาพจราจรและการวางแผนเส้นทางล่วงหน้า เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เราจะกล่าวถึงแหล่งข้อมูลและเครื่องมือที่สามารถช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับสภาพจราจร รวมถึงเคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงการติดขัดบนถนน เพื่อให้แน่ใจว่าการเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและประหยัดเวลา ไม่ว่าคุณจะกำลังวางแผนการขนย้ายของ หรือการเดินทางอื่นๆ จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจและเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนนขนส่ง รถรับจ้าง

   
การตรวจสอบสภาพจราจรก่อนการเดินทาง มีความสำคัญยังไง

การตรวจสอบสภาพจราจรก่อนการเดินทางมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการเดินทาง นี่คือเหตุผลบางประการที่การตรวจสอบสภาพจราจรเป็นสิ่งสำคัญ

    หลีกเลี่ยงการติดขัด : สภาพจราจรที่หนาแน่นสามารถทำให้เกิดความล่าช้าอย่างมาก การตรวจสอบก่อนการเดินทางช่วยให้คุณเลือกเส้นทางที่หลีกเลี่ยงการติดขัด และสามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางได้หากจำเป็น
    ลดความเครียดและความกังวล : การติดขัดบนถนนอาจทำให้เกิดความเครียดและความกังวล การทราบล่วงหน้าถึงสถานการณ์จราจรช่วยให้คุณวางแผนเส้นทางและเวลาเดินทางได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
    ปรับเวลาการเดินทาง : เมื่อรู้สภาพจราจร คุณสามารถปรับเวลาการเดินทางได้ตามความเหมาะสม เช่น การเดินทางในช่วงที่จราจรไม่คับคั่ง หรือหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน
    ความปลอดภัยในการเดินทาง : การตรวจสอบสภาพจราจรสามารถช่วยให้คุณทราบเกี่ยวกับอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยบนท้องถนน สิ่งนี้ช่วยให้คุณสามารถวางแผนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่อาจเป็นอันตราย
    ประหยัดเวลาและทรัพยากร : เมื่อสามารถเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดได้ คุณจะประหยัดเวลาในการเดินทาง รวมถึงทรัพยากร เช่น น้ำมันและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการติดขัด
    การวางแผนการใช้บริการ : หากคุณใช้ รถรับจ้างขนของกาฬสินธุ์ การรู้สภาพจราจรก่อนจะช่วยให้คุณประเมินระยะเวลาการเดินทางและวางแผนการใช้บริการอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับงานขนย้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การตรวจสอบสภาพจราจรไม่ใช่แค่การลดความล่าช้า แต่ยังเป็นวิธีในการเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการเดินทางอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางส่วนตัวหรือการใช้บริการขนของ การตรวจสอบสภาพจราจรจะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพรถกระบะรับจ้างขนสินค้าออนไลน์

   
วิธีตรวจสอบสภาพจราจรก่อนการเดินทาง

การตรวจสอบสภาพจราจรก่อนการเดินทางเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณวางแผนเส้นทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการเผชิญกับการจราจรที่ติดขัด บริการรถรับจ้างขนของกาฬสินธุ์ นี่คือวิธีการตรวจสอบสภาพจราจรก่อนการเดินทาง

    ใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ : ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันและเว็บไซต์หลายแห่งที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพจราจรแบบเรียลไทม์ เช่น Google Maps, Waze หรือ Here WeGo แอปเหล่านี้สามารถแสดงข้อมูลเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น จุดที่เกิดอุบัติเหตุ หรือการก่อสร้างถนน ซึ่งจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีการจราจรติดขัด
    ตรวจสอบข่าวสารท้องถิ่นหรือสถานีวิทยุ : สถานีวิทยุบางแห่งและแหล่งข่าวท้องถิ่นมักจะรายงานเกี่ยวกับสภาพจราจรและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนท้องถนน คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อวางแผนการเดินทางและปรับเปลี่ยนเส้นทางหากจำเป็น
    ติดตามสภาพอากาศ : สภาพอากาศสามารถส่งผลต่อสภาพจราจร เช่น ฝนตกหนักหรือหมอกหนาทำให้เกิดการติดขัดหรืออุบัติเหตุ การตรวจสอบสภาพอากาศก่อนการเดินทางสามารถช่วยให้คุณเตรียมตัวและวางแผนเส้นทางที่ปลอดภัย
    การวางแผนเส้นทางล่วงหน้า : หลังจากที่คุณตรวจสอบสภาพจราจรแล้ว คุณควรพิจารณาเส้นทางที่หลีกเลี่ยงการจราจรหนาแน่นหรือการก่อสร้าง โดยการใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่มีข้อมูลการนำทาง คุณสามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางได้ตามความจำเป็น
    การตั้งเวลาการเดินทาง : การเลือกเวลาเดินทางที่เหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงของการติดขัด การเดินทางในช่วงเวลาที่จราจรน้อยจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและลดความเครียด

การใช้วิธีเหล่านี้เพื่อการตรวจสอบสภาพจราจรก่อนการเดินทางจะช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงลดความเสี่ยงของการเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดบนท้องถนนขนย้ายเครื่องจักร

   
บริการรถรับจ้างขนของกาฬสินธุ์ให้เราช่วยคุณวางแผนการเดินทาง

รถรับจ้างขนของกาฬสินธุ์ เป็นบริการที่ได้รับความนิยมในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากการใช้บริการรถรับจ้างเป็นวิธีที่สะดวกสำหรับการขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน หรือการขนส่งสินค้า การวางแผนการเดินทางเมื่อใช้บริการรถรับจ้างขนของกาฬสินธุ์มีความสำคัญ เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ นี่คือคำแนะนำในการวางแผนการเดินทางกับรถรับจ้างขนของกาฬสินธุ์

    กำหนดวัตถุประสงค์และเส้นทาง : ระบุวัตถุประสงค์ของการขนย้าย เช่น ย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน หรือขนส่งสินค้า จากนั้นกำหนดเส้นทางที่ต้องการเดินทาง โดยพิจารณาจากจุดเริ่มต้นและปลายทาง
    เลือกประเภทของรถรับจ้าง : ในกาฬสินธุ์มีรถรับจ้างหลายประเภท เช่น รถกระบะ รถบรรทุก หรือรถเทรลเลอร์ เลือกประเภทของรถที่เหมาะสมกับปริมาณและประเภทของสิ่งของที่ต้องการขนย้าย
    เช็คสภาพจราจรและเส้นทางล่วงหน้า : การตรวจสอบสภาพจราจรก่อนการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดขัดและอุบัติเหตุ คุณสามารถใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่แสดงสภาพจราจรแบบเรียลไทม์ เพื่อวางแผนเส้นทางที่ดีที่สุด
    นัดหมายเวลาที่เหมาะสม : เลือกเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทาง เช่น เลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนหรือตรวจสอบช่วงเวลาที่มีงานก่อสร้างหรือกิจกรรมที่อาจทำให้จราจรติดขัด
    ตรวจสอบสภาพรถและคนขับ : ตรวจสอบสภาพรถให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพดี และคนขับมีประสบการณ์และมีใบอนุญาตขับขี่อย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
    เตรียมของและอุปกรณ์ : จัดการสิ่งของที่จะขนย้ายให้เป็นระเบียบ และเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น เชือก ห่อของ หรืออุปกรณ์เสริม เพื่อป้องกันการเสียหายระหว่างการขนย้าย
    ติดต่อและเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ : ติดต่อผู้ให้บริการรถรับจ้างเพื่อยืนยันเวลา สถานที่ และรายละเอียดอื่น ๆ อย่างชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนหรือการผิดพลาดในการนัดหมาย

การวางแผนการเดินทางเมื่อใช้ บริการรถรับจ้างขนของกาฬสินธุ์ จะช่วยให้การขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ขนส่ง นอกจากการวางแผนเส้นทางแล้ว การเตรียมตัวและตรวจสอบสภาพรถยังช่วยลดความเสี่ยงและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางอีกด้วย

8
ข้อเสียของการจัดฟันเด็ก

ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองแม่ควรเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เพราะฟันน้ำนมของเด็กนั้น มีความสำคัญมาก เนื่องจากฟันน้ำนมคือเครื่องมือการรักษาช่องว่างตามธรรมชาติในขากรรไกร เพื่อกันพื้นที่ให้ฟันแท้ขึ้นมาได้ พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่คิดว่าฟันน้ำนมไม่มีความสำคัญ หากเด็กต้องสูญเสียฟันน้ำนมหรือถอนออกก็คงไม่เป็นไร แต่ความจริงแล้ว หากต้องเสียฟันน้ำนมก่อนวัยอันควรเช่น ถ้าพ่อแม่พาบุตรหลานไปถอนฟันน้ำนมทิ้ง ก็อาจจะทำให้ฟันซี่อื่นๆ เคลื่อนตัวเข้ามาในช่องว่างระหว่างฟัน ทำให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาอาจจะขาดพื้นที่และไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ตามธรรมชาติ ซึ่งนี่อาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติของขากรรไกรและการสบฟันของเด็กได้

ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรจะหมั่นสังเกตบุตรหลานของท่านว่ามีการสบฟันที่ผิดปกติหรือไม่ ถ้าหากมีปัญหาดังกล่าว ก็ควรได้รับการตรวจจากทันตแพทย์เพื่อทำการแก้ไข สำหรับสัญญาณของความผิดปกติของการสบฟันนั้น ยกตัวอย่างเช่น ฟันซ้อนหรือฟันขึ้นผิดตำแหน่ง ฟันซ้อนเก ฟันสบลึก หรือเด็กมีพฤติกรรมการบดเคี้ยวอาหารได้ลำบากและชอบหายใจทางปาก ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นสัญญาณของการสบฟันที่ผิดปกติ พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านถ้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา โดยการรักษาการสบฟันที่ผิดปกตินั้น

มักนิยมใช้วิธีการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพราะการจัดฟันในเด็ก สามารถช่วยทำให้เด็กมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม นอกจากนี้  ถ้าเด็กได้รับการรักษาด้วยการจัดฟัน ก็จะมีผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการจัดฟันตอนโต แต่อย่างไรก็ตาม การจัดฟันในเด็กก็ยังมีข้อเสียนั้นก็คืออาจจะทำให้บุตรหลานของท่านใช้ชีวิตประจำวันได้ยากกว่าปกติ แต่ไม่ต้องกังวลในข้อนี้ เพราะถ้าหากเด็กปรับตัวที่จะอยู่ร่วมกับการใช้เครื่องมือการจัดฟันได้ ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป

สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงข้อเสียของการจัดฟันในเด็ก ซึ่งอาจจะทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนมีความกังวลถึงผลเสียที่จะตามมา ถ้าหากลูกน้อยของท่านจัดฟันตั้งแต่ตอนเด็ก แต่ต้องบอกก่อนว่าการจัดฟันในเด็กนั้น เป็นการแก้ไขฟันที่มีประสิทธิภาพและก็มีข้อดีเช่นเดียวกัน เพราะจะทำให้เด็กรู้จักรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันและตระหนักถึงปัญหาฟัน หากเราดูแลสุขภาพช่องปากและฟันไม่ดี สำหรับข้อเสียของการจัดฟันในเด็ก อย่างแรกเลยคืออาจทำให้เด็กไม่สามารถทำกิจกรรมที่มีการปะทะได้ เนื่องจากในวัยเด็ก อาจจะมีการเล่นกีฬาหรือร่วมกิจกรรมที่อาจจะมีการปะทะบ้าง ถือเป็นเรื่องที่มักจะพบเจอได้บ่อย

ดังนั้น เด็กอาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องของการเล่นกีฬาหรือการร่วมกิจกรรม เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ เนื่องจากมีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือในขณะที่เด็กมีเครื่องมือจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก ก็อาจจะทำให้ทำความสะอาดฟันได้ยากและเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุได้ถ้าไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ดี และในขณะรับประทานอาหาร เศษอาหารอาจจะเข้าไปติดที่เหล็กจัดฟันได้ อาจจะทำให้เสียบุคลิกภาพได้ และเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุและมีกลิ่นปาก ต่อมาการพูดหรือออกเสียงไม่ชัด

ซึ่งในข้อนี้ถือเป็นปัญหาของเด็กหลายๆคนที่เข้ารับการจัดฟัน แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะการพูดไม่ชัดจะเกิดขึ้นในระยะแรกหลังจากการจัดฟันและข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือเด็กอาจจะไม่ได้รับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายมากนัก เพราะจะต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีความอ่อนนุ่ม เพื่อลดปัญหาของการเสียหายของเครื่องมือจัดฟันนั่นเอง ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นข้อเสียของการจัดฟันในเด็กที่อาจจะกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็กได้ แต่ก็สามารถแก้ไขได้ หากเด็กปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจอยากให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง ทำให้มั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

9
หากพบว่าผ้ากันไฟมีลักษณะที่ไม่เหมาะสม ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีหรือไม่

ใช่ครับ หากพบว่าผ้ากันไฟมีลักษณะที่ไม่เหมาะสม ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เนื่องจากผ้ากันไฟที่ชำรุดหรือเสื่อมสภาพจะไม่สามารถป้องกันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจเป็นอันตรายได้


ลักษณะที่ไม่เหมาะสมของผ้ากันไฟที่ควรเปลี่ยนใหม่ทันที:

รอยฉีกขาดหรือรอยเปื่อย: ผ้ากันไฟที่มีรอยฉีกขาดหรือรอยเปื่อยจะไม่สามารถป้องกันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจทำให้ไฟลุกลามได้

รอยไหม้หรือรอยความเสียหาย: รอยไหม้หรือรอยความเสียหายอื่นๆ อาจบ่งบอกว่าผ้ากันไฟได้รับความเสียหายจากความร้อน และไม่ควรนำมาใช้งาน

การเคลือบผิวหลุดลอก: หากผ้ากันไฟมีการเคลือบผิว การหลุดลอกของการเคลือบผิวจะทำให้ผ้ากันไฟไม่สามารถป้องกันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เนื้อผ้าเปื่อยยุ่ยหรือแข็งกระด้าง: เนื้อผ้าที่เปื่อยยุ่ยหรือแข็งกระด้างแสดงว่าผ้ากันไฟเสื่อมสภาพ และไม่ควรนำมาใช้งาน

มีคราบน้ำมันหรือสารเคมี: คราบน้ำมันหรือสารเคมีบนผ้ากันไฟอาจทำให้ผ้าติดไฟได้ง่ายขึ้น

ไม่มีมาตรฐานรับรอง: ผ้ากันไฟที่ไม่มีมาตรฐานรับรองอาจไม่มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันไฟ


เหตุผลที่ควรเปลี่ยนผ้ากันไฟทันทีเมื่อพบลักษณะที่ไม่เหมาะสม:

ความปลอดภัย: ผ้ากันไฟที่ชำรุดหรือเสื่อมสภาพจะไม่สามารถป้องกันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ประสิทธิภาพ: ผ้ากันไฟที่อยู่ในสภาพดีจะสามารถป้องกันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ความคุ้มค่า: การเปลี่ยนผ้ากันไฟใหม่จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากไฟไหม้ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเปลี่ยนผ้ากันไฟ

ดังนั้น การตรวจสอบผ้ากันไฟอย่างสม่ำเสมอ และเปลี่ยนผ้ากันไฟเมื่อพบว่ามีลักษณะที่ไม่เหมาะสม จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผ้ากันไฟจะสามารถป้องกันอันตรายจากไฟไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10
ข้อควรระวังของการปรุงอาหารปั่นผสม อาหารสายยาง

อาหารปั่นผสม เป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ ที่ต้องใช้ให้สำหรับป่วยทางสายยางให้อาหารเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารและเป็นการช่วยป้องกันการเกิดภาวะขาดสารอาหารในผู้ป่วย อาหารปั่นผสมที่ให้ทางสายยางให้อาหาร จะต้องเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน คือมีสารอาหารเพียงพอแก่ความต้องการของร่างกายผู้ป่วยและต้องมีความเหมาะสมกับโรคของผู้ป่วย รวมไปถึงอาหารต้องมีความเหลวที่พอเหมาะ ไม่เข้มข้นจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการติดขัดทางสายยางให้อาหาร โดยกลุ่มอาหารหลักในอาหารปั่นผสมจะประกอบไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันอย่างเหมาะสม

การให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วยควรจะแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประทานอาหารที่ถี่ขึ้น ซึ่งในแต่ละมื้อไม่ควรมากจนเกินไป แต่ส่วนใหญ่นักโภชนาการจะเป็นผู้กำหนดว่าผู้ป่วยควรได้รับสารอาหารในแต่ละมื้อในปริมาณเท่าใด เพื่อให้เป็นไปตามหลักของนักโภชนาการที่ได้ทำการกำหนดไว้อย่างถูกต้อง โดยส่งยใหญ่คนทั่วไปจะรับประทานอาหาร 3 มื้อ คือ มื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น แต่ในกรณีของผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้หรือผู้ป่วยต้องให้อาหารทางสายยางควรแบ่งเป็น 4 มื้อ เพื่อให้ร่างกายและระบบทางเดินอาหารทำงานไม่หนักจนเกินไป นอกจากนี้อาหารปั่นผสมจะต้องมีการดูแลทุกขั้นตอนการปรุงอาหารเพื่อให้ได้อาหารที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับผู้ป่วยเพราะการให้อาหารทางสายยางผู้ป่วยอาจจะได้รับภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายจึงต้องมีวิธีการขั้นตอนที่ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์

สำหรับใครที่ต้องการปรุงอาหารปั่นผสม ให้สำหรับผู้ป่วยที่ต้องพักฟื้นที่บ้านหรือผู้ป่วยที่ติดเตียงก็สามารถทำได้ แต่ควรทราบข้อมูลอย่างละเอียด ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ การเตรียมอุปกรณ์ รวมไปถึงรายละเอียดต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ปริมาณอาหารที่จะให้กับผู้ป่วย วัตถุดิบต่าง ๆที่เหมาะสมกับผู้ป่วย รวมไปถึงสัดส่วนของสารอาหารที่ผู้ป่วยควรจะได้รับเพื่อให้ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนขณะให้อาหารทางสายยาง เนื่องจากขั้นตอนการให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วยนั้นมีวิธีการอย่างละเอียด รวมไปถึงยังมีข้อจำกัดต่าง ๆที่ผู้ดูแลจะต้องทราบเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัย

สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อควรระวังในการปรุงอาหารปั่นผสมให้กับผู้ป่วยที่ต้องให้อาหารทางสายยาง ว่าผู้ดูแลจะต้องระมัดระวังเรื่องใดบ้าง สำหรับข้อควรระวังในการปรุงอาหารปั่นผสม ข้อแรกเลยคือผู้ดูแลหรือผู้ที่ปรุงอาหารจะต้องรักษาความสะอาด รวมไปถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ที่จะนำมาปรุงอาหาร โดยผู้ดูแลจะต้องล้างมือก่อนการปรุงอาหารทุกครั้ง เพื่อป้องกันสารปนเปื้อนที่อาจจะตกลงไปในอาหารได้ ทำให้อาหารไม่สะอาดเมื่อผู้ป่วยได้รับอาหารเข้าไปจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น อาการท้องเสียหรืออาเจียน ต่อมาคือวัตถุดิบที่จะนำมาปรุงอาหารปั่นผสม จะต้องมีความสะอาด ปลอดภัย มีความสดใหม่ ปราศจากเคมีต่าง ๆ ถึงแม้ว่าขั้นตอนการทำอาหารปั่นผสมจะต้องนำวัตถุดิบต่าง ๆไปผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อโรค แต่อย่างไรก็ตามวัตถุดิบควรมีความสะอาดมากที่สุด นอกจากนี้การออกแบบสูตรอาหารต่าง ๆ

สำหรับการปรุงอาหารปั่นผสมจะต้องถูกออกแบบโดยนักโภชนาการที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของอาหารสำหรับผู้ป่วย เพื่อที่จะได้ทำการกำหนดปริมาณของสารอาหารที่ผู้ป่วยควรจะได้รับในแต่ละวัน ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ไม่ควรปรุงอาหารปั่นผสมเองโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้ผู้ป่วยอาจจะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอหรืออาจทำให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่มากจนเกินไป อาจจะทำให้เกิดอันตรายหรือโรคแทรกซ้อนอื่น ๆตามมา ดังนั้นในเรื่องของปริมาณอาหารปั่นผสมที่จะนำไปให้ผู้ป่วยจึงต้องมีความสำคัญผู้ดูแลจะต้องคำนึงให้มากเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม อาหารปั่นผสม นอกจากจะต้องมีความสะอาดตั้งแต่ขั้นตอนการปรุงแล้ว ยังต้องมีปริมาณที่ถูกต้องและเหมาะสมกับร่างกายผู้ป่วยแล้ว วัตถุดิบต่าง ๆที่จะนำให้ป่วยจะต้องถูกกับโรค เนื่องจากผู้ป่วยบางโรคจะต้องงดรับประทานอาหารบางชนิดเพราะไม่อย่างนั้นจะทำให้อาการป่วยแย่ลงหรือกำเริบขึ้นมาได้

นอกจากนี้การปรุงอาหารปั่นผสมจะต้องคำนึงถึงความเข้มข้นของอาหาร เพราะถ้าหากอาหารปั่นผสมมีความหนืดที่มากจนเกินไป อาจจะทำให้อาหารปั่นผสมติดขัดอยู่ภายในสายยางให้อาหาร ขณะให้อาหารได้และจะทำให้ผู้ป่วยเกิดการสำลักอาหาร ดังนั้นทุกขั้นตอนในการปรุงอาหารปั่นผสม จะต้องคำนึงถึงผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างการให้อาหารแก่ผู้ป่วยด้วย

ทั้งนี้ทางอาหารปั่นผสม เรามีบริการอาหารทางสายยางที่มีสารอาหารครบถ้วนเต็มไปด้วยคุณภาพและผลิตโดยนักโภชนาการที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของอาหารสำหรับผู้ป่วยและยังมีการเลือกสรรวัตถุดิบอย่างพิเศษ เพื่อให้อาหารมีคุณภาพและมาตรฐานตามหลักทางการแพทย์และยังมีการปรุงอาหารภายในห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาล จึงทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารปั่นผสม จะมีความสะอาดปลอดภัยถูกสุขอนามัย ทำให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่สะอาดและยังทำให้หายจากอาการป่วยได้เร็วยิ่งขึ้น




11
สินค้า บริการอื่น ๆ / Doctor At Home: หูด (Warts)
« เมื่อ: 07 สิงหาคม 2025, 14:50:37 pm »
Doctor At Home: หูด (Warts)

หูด เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้าย (benign) ของผิวหนัง เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในเด็กวัยเรียน ในผู้ใหญ่ก็เป็นได้ แต่จะพบได้น้อยในคนอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป

หูดมีหลายชนิด อาจมีขนาดแตกต่างกันไป ขึ้นกับตำแหน่งที่เป็น อาจขึ้นเดี่ยว ๆ หรือหลายอันก็ได้ มักขึ้นที่มือ เท้า ข้อศอก ข้อเข่า ใบหน้า ฝ่ามือฝ่าเท้า อาจขึ้นตามผิวหนังส่วนอื่น ๆ รวมทั้งที่อวัยวะเพศ

ส่วนมากจะยุบหายได้เองตามธรรมชาติ (แม้จะไม่ได้รับการรักษา) ภายหลังที่เป็นอยู่หลายเดือน บางรายอาจเป็นอยู่เป็นปี ๆ กว่าจะยุบหาย เมื่อหายแล้วอาจกลับเป็นใหม่ได้อีก

สำหรับหูดที่อวัยวะเพศขอแยกกล่าวไว้ใน "โรคหงอนไก่"

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เอชพีวี (HPV ซึ่งย่อมาจาก human papilloma virus) ซึ่งมีมากกว่า 70 ชนิด เมื่อเชื้อไวรัสแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ผิวหนังก็จะเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นหูดงอกออกจากผิวหนังส่วนที่ปกติ

หูดสามารถติดต่อโดยการสัมผัสถูกคนที่เป็นหูดโดยตรง ผิวหนังที่มีบาดแผลหรือรอยถลอกจะติดเชื้อและกลายเป็นหูดได้ง่ายกว่าผิวที่ปกติ ระยะฟักตัว 2-18 เดือน

อาการ

หูดธรรมดา (common warts) จะมีลักษณะเป็นตุ่มกลมแข็ง ผิวหยาบ ออกเป็นสีเทา ๆ เหลือง ๆ หรือน้ำตาล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-10 มม. มักจะขึ้นตรงบริเวณที่ถูกเสียดสีง่าย (เช่น นิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อศอก ข้อเข่า ใบหน้า หนังศีรษะ เป็นต้น) และอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

หูดที่เป็นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า จะมีลักษณะเป็นไตแข็ง ๆ หยาบ ๆ แต่จะแบนราบเท่าระดับผิวหนังที่ปกติ เพราะมีแรงกดขณะเดินหรือใช้งาน ลักษณะคล้าย ๆ ตาปลา แต่จะแยกกันได้ตรงที่ถ้าใช้ใบมีดฝานหูดบริเวณผิวบน ๆ ของหูดจะเห็นมีจุดดำ ซึ่งเป็นจุดเลือดออกเก่า ๆ ที่แข็งตัวแล้ว

หูดที่เป็นติ่ง (filiform warts) จะมีลักษณะเป็นติ่งเนื้อแข็งยาวคล้ายนิ้วมือเล็ก ๆ ยื่นจากผิวหนัง มักขึ้นที่หนังตา ใบหน้า ลำคอ หรือริมฝีปาก

ภาวะแทรกซ้อน

หูดเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด นอกจากทำให้แลดูน่าเกลียดน่ารำคาญ หรืออาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเป็นปมด้อย ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง   

บางรายอาจมีอาการปวดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นหูดที่ฝ่าเท้า เวลาเดินลงน้ำหนักแรง ๆ อาจทำให้ปวดเดินไม่ถนัดได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยจากการตรวจพบรอยโรค และการนำตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ

การรักษาโดยแพทย์

ในรายที่มีอาการเล็กน้อย จะให้สังเกตดูอาการ บางรายอาจหายเองได้ภายใน 2 ปี แต่ก็อาจเกิดขึ้นใหม่ได้อีก

  ในรายที่มีอาการมาก รู้สึกรำคาญน่าเกลียด หรือเจ็บปวด แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. หูดที่ฝ่าเท้า ใช้ปลาสเตอร์ที่มีกรดซาลิไซลิกชนิด 40% ปิด โดยฝานหูดจนมีเลือดซิบ แล้วใช้ปลาสเตอร์ดังกล่าวปิด พอครบ 1 สัปดาห์ก็ทำการฝานหูดซ้ำอีกครั้ง แล้วปิดปลาสเตอร์ต่อไป ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์จนกว่าจะหาย หรืออาจใช้ยากัดตาปลาหรือหูดซึ่งมีกรดซาลิไซลิกผสมทาที่ตัวหูดทุกวัน ยาจะค่อย ๆ กัดเนื้อหูดให้หลุดออก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

2. หูดที่เป็นติ่ง ให้พ่นด้วยยาชา แล้วใช้กรรไกรตัด หรือใช้ไฟฟ้าจี้และขูดออก (electrodessication)

3. หูดที่เป็นตุ่มหรือไตขนาดใหญ่ แพทย์จะทำการผ่าตัดและขูดออก (อาจใช้ไฟฟ้าจี้ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้) ซึ่งอาจใช้เวลา 4 สัปดาห์กว่าแผลจะหายดี หรือไม่ก็อาจรักษาโดยใช้กรดซาลิไซลิกชนิด 10% และกรดแล็กติกชนิด 10% ในคอลลอยเดียนเบสทา หรือทาด้วยกรดไตรคลอโรอะซิติก (trichloroacetic acid) ชนิด 30-50%

หรือใช้ไนโตรเจนเหลว (liquid nitrogen) หรือคาร์บอนไดออกไซด์แข็ง (solid CO2) ในการรักษาหูด โดยจี้ทุก ๆ 2 สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน หรือใช้แสงเลเซอร์หรือเครื่องจี้ไฟฟ้าในการรักษา

ในรายที่ดื้อต่อการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว แพทย์อาจให้การรักษาโดยให้ผู้ป่วยกินไซเมทิดีนในขนาดสูง (30-40 มก./กก./วัน) ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน โดยให้นาน 6-8 สัปดาห์ จะช่วยให้หูดยุบหายหมดได้ประมาณร้อยละ 60-70

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ผิวหนังมีตุ่มแข็งหรือมีติ่งเนื้อแข็งยื่นจากผิวหนัง หรือฝ่ามือฝ่าเท้ามีไตแข็ง ๆ หยาบ ๆ แต่แบนราบ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคหูด ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    หลังการรักษาแล้วหากมีอาการปวด แสบ คัน พุเป็นตุ่มน้ำ หรือบวมที่บริเวณรอยโรคไม่ทุเลา ใน 1-2 สัปดาห์
    มีหูดเกิดขึ้นใหม่

การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกเนื้อหูดของผู้อื่น
    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว รองเท้า ถุงเท้า) ร่วมกับคนที่เป็นหูด
    ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อหูดไปบริเวณอื่นของร่างกาย โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือแกะเกาหูดของตัวเอง และเมื่อสัมผัสถูกหูดควรล้างมือด้วยน้ำกับสบู่เมื่อสัมผัสทันที
    หมั่นล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง และเปลี่ยนถุงเท้าที่ใส่ทุกวันเพื่อป้องกันหูดที่ฝ่าเท้า
    ระมัดระวังอย่าให้เกิดบาดแผลที่ผิวหนัง เช่น ระมัดระวังการโกนหนวด หลีกเลี่ยงการกัดแทะเล็บเป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อหูดเข้าทางบาดแผล
    หมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย กินอาหารครบ 5 หมู่ที่สมสัดส่วน  และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

ข้อแนะนำ

หูดเกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งสามารถติดต่อได้ง่ายโดยการสัมผัสและทางเพศสัมพันธ์ ไม่มีการรักษาที่จำเพาะ (ไม่มียาที่ทำลายเชื้อไวรัสกลุ่มนี้) ส่วนใหญ่มักเป็นไม่รุนแรง และหายได้เองภายใน 2 ปี แต่อาจเกิดขึ้นได้ใหม่ การรักษาสุขภาพให้มีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรงมีส่วนป้องกันและรักษาโรคนี้ได้ การรักษามุ่งที่ทำลายเนื้อหูดให้หมดไปด้วยวิธีต่าง ๆ ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้ตามสภาพของโรคที่เป็น และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

12
วัณโรคปอดมีอาการอย่างไร

วัณโรคปอดคืออะไร

ผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคเป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงชนิดหนึ่ง ซึ่งโดยมากแล้วจะมีผลต่อปอด หรือที่เรียกว่า "วัณโรคปอด" ทั้งนี้ วัณโรคปอดเป็นโรคติดต่อและสามารถแพร่สู่คนผ่านละอองฝอยจากการไอและจามได้

วัณโรคปอดมีอาการอย่างไร

วัณโรคมีอยู่ 2 ประเภท คือ วัณโรคแฝง และ วัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบ คนที่มีวัณโรคแฝงจะไม่แสดงอาการและวัณโรคชนิดนี้จะไม่แพร่กระจายไปยังบุคคลอื่น อย่างไรก็ดี วัณโรคแฝงอาจกลายมาเป็นวัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบได้ และจำเป็นต้องได้รับการรักษาเช่นเดียวกัน ในขณะที่วัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบนั้นทําให้ผู้ป่วยมีอาการของวัณโรค และสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้

ผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบอาจมีอาการดังต่อไปนี้:

    มีอาการไอเรื้อรังยาวนานถึง 3 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น
    ไอแล้วเสมหะมีเลือดปนออกมา
    มีอาการเจ็บหน้าอก ขณะหายใจหรือไอ
    มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ
    มีน้ำหนักลดแบบไม่ทราบสาเหตุ
    มีอาการอ่อนเพลีย
    มีไข้ หรือมีเหงื่อออกในเวลากลางคืน
    รู้สึกหนาวสั่น
    รู้สึกไม่อยากอาหาร

โดยทั่วไปแล้ว วัณโรคอาจเป็นกันได้ตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายนอกเหนือจากปอดก็ได้ เช่น ไต กระดูกสันหลัง หรือสมอง โดยจะมีอาการแตกต่างกันไปตามบริเวณร่างกายที่เกิด เช่น ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดหลังหากวัณโรคลงกระดูกสันหลัง และผู้ป่วยอาจมีเลือดในปัสสาวะหากวัณโรคลงไต

เมื่อต้องพบแพทย์

ผู้ป่วยวัณโรคปอดจะมีไข้ น้ำหนักลดโดยหาคำอธิบายไม่ได้ มีเหงื่อออกในเวลากลางคืน หรือไอเรื้อรังโดยนิยามคือมากกว่า 3 สัปดาห์ หากมีอาการเหล่านี้ ผู้ป่วยควรพบแพทย์ทันที โดยแพทย์อาจใช้วิธีซักประวัติ ตรวจร่างกาย และผลปฏิบัติการเพิ่มเติมเพื่อระบุสาเหตุของโรค

สาเหตุของวัณโรคปอด

โดยทั่วไปแล้ว วัณโรคปอดมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis ที่ทำให้เกิดโรค ที่รับผ่านกันมาจากละอองฝอยทางอากาศ วัณโรคเป็นโรคติดต่อ แต่ก็ไม่ได้ติดกันง่าย ๆ ซึ่งหมายความว่า ผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะติดโรคจากคนใกล้ชิดหรือคนที่ทํางานด้วยกัน ไม่ใช่คนแปลกหน้า อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์จะได้รับเชื้อและเกิดวัณโรคง่ายกว่าคนทั่วไป เนื่องจากมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ นอกจากนี้ เชื้อวัณโรคบางชนิดมีการดื้อยา โดยเฉพาะกลุ่มยาไอโซไนอาซิดและไรแฟมพิซิน

ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดวัณโรคปอดมีอะไรบ้าง

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดวัณโรคปอดมีหลายอย่าง เช่น:

    มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เนื่องจากมีโรคบางอย่างหรือเข้ารับการรักษาบางประเภท เช่น เป็นเอดส์ หรือ กำลังทำเคมีบําบัดเพื่อรักษาโรคมะเร็ง
    เดินทางหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดวัณโรคสูง
    กำลังใช้สารบางอย่าง เช่น สูบบุหรี่ ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
    ไม่มีบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขให้ผู้ป่วยได้เข้าใช้บริการ
    อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรค เช่น กำลังอาศัยอยู่หรือเคยทำงานในสถานพยาบาล หรือกำลังอาศัยอยู่ในหรืออพยพมาอยู่ในประเทศที่มีการติดเชื้อวัณโรคสูง หรือกำลังอาศัยอยู่กับผู้ที่ติดเชื้อวัณโรค

 แพทย์วินิจฉัยวัณโรคปอดได้อย่างไร

โดยปกติแล้ว แพทย์มักเริ่มด้วยซักประวัติและการตรวจร่างกาย เช่น การตรวจต่อมน้ำเหลืองของผู้ป่วย หรือใช้หูฟัง (Stethoscope) เพื่อฟังเสียงในปอดขณะหายใจ นอกจากนี้ แพทย์อาจเลือกใช้การตรวจอื่น ๆ ด้วย เช่น การตรวจผิวภูมิต้านทานเฉพาะ การตรวจเลือด การตรวจวินิจฉัยด้วยภาพถ่าย X-Ray และการตรวจเสมหะ

แพทย์รักษาวัณโรคปอดอย่างไร

แพทย์มักเลือกใช้ยาในการรักษาวัณโรคปอด ซึ่งใช้เวลาในการรักษานานกว่าโรคติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น การรักษาวัณโรคปอดอาจแตกต่างกัน ไปดังนี้:
ยารักษาวัณโรคปอดที่ใช้บ่อยที่สุด

แพทย์อาจเลือกใช้ยารักษาผู้ป่วยที่เป็นวัณโรค ดังต่อไปนี้:

    ไอโซไนอะซิด (Isoniazid)
    ริฟามพิน (Rifampin)
    เอทแทมบูท (Ethambutol)
    ไพราซีนาไมด์ (Pyrazinamide)

ทั้งนี้ แพทย์อาจสั่งยาเพิ่มเติมในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นวัณโรคชนิดที่ดื้อยาแล้ว เช่น:

    เบดาไคลีน (Bedaquiline)
    ไลน์โซลิด (Linezolid)

การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์

ก่อนพบแพทย์ ผู้ป่วยวัณโรคปอดควรเตรียมตัวดังนี้

    ทราบถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ก่อนพบแพทย์
    จดบันทึกอาการของโรคที่มี
    เตรียมรายการข้อมูลส่วนตัว เช่น มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง หรือประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ
    เตรียมรายการยา วิตามินหรืออาหารเสริมที่ผู้ป่วยเคยใช้หรือกำลังใช้
    เตรียมคําถามไว้ถามแพทย์

ต้องเจออะไรบ้างเมื่อต้องพบแพทย์

ในระหว่างการซักประวัติผู้ป่วย แพทย์อาจถามเกี่ยวกับ:

    อาการและเริ่มสังเกตเห็นอาการเมื่อไร
    ผู้ป่วยมีเชื้อเอชไอวีหรือโรคเอดส์หรือไม่
    ผู้ป่วยเคยอาศัยอยู่ในต่างประเทศหรือเคยเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่
    ผู้ป่วยเคยอยู่หรือกำลังอาศัยอยู่กับคนที่เป็นวัณโรคหรือไม่

13
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


14
ทำบุญด้วยอะไร เปิดความหมายของถวายพระ 7 อย่าง ความหมายดี

การทำบุญมีหลายรูปแบบมากๆ ในปัจจุบัน บางคนทำบุญตามความสบายใจ อยากซื้อสิ่งของใดถวายก็ซื้อ หรือสิ่งของที่คนถวายชอบก็ซื้อ หรือจำพวกสิ่งของที่หาง่าย และพระท่านได้ใช้จริงก็มีมากเช่นกัน

เพราะโดยมากคนนำไปถวายจะคำนึงมากกว่าว่าพระท่านจะได้นำไปใช้หรือนำไปเก็บ และหลายคนยังให้ความสำคัญในเรื่องของการทำบุญให้กับวัดแล้ว หากทางวัดไม่สามารถใช้ได้ ทางวัดจะจัดการแจกเป็นทานให้กับชาวบ้านได้อีกเช่นกัน

และสมัยนี้ยังนิยมทำบุญด้วยสิ่งของที่มีความหมายดี การทำบุญด้วยสิ่งของความหมายดีเหล่านี้นั้น นอกจากพระท่านได้ใช้แล้ว ยังได้อานิสงส์แรงอีกด้วย เช่น

1. ยารักษาโรค ความหมาย คือเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพดี ไม่มีโรคภัย

2. บาตรพระ ความหมาย คือทำการใดสมใจหวังราบรื่น ไม่มีอะไรติดขัด (ในยุคปัจจุบัน ไม่ได้มีการเปลี่ยนบาตรอย่างบ่อยครั้ง การทำบุญด้วยบาตรพระจึงเป็นที่นิยมน้อย และบางวัดพระท่านจะบอกว่าเป็นของไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนบ่อย เพราะสามารถนำมาใช้ซ้ำได้นั่นเอง)

3. ผ้าไตร จีวร ความหมาย คือขจัดทุกข์ภัย ทุกข์เข็ญที่มี ปัดเป่าอุปสรรคอันตรายทั้งปวง

4. น้ำดื่ม ความหมาย คือเพื่อชีวิตจะได้ไหลลื่น เย็น เรียบง่าย ไร้อุปสรรค

5. ร่ม ความหมาย คือช่วยให้ร่มเย็นเป็นสุข ป้องกันภัยอันตราย

6. อาสนะ ความหมาย คือนำมาซึ่งชื่อเสียงอันไกล โด่งดัง (ไม่นิยมเปลี่ยนบ่อยเช่นกัน เพราะสามารถนำมาใช้ซ้ำได้)

7. ไม้เท้า รองเท้า ความหมาย คือเพื่อชีวิตที่มั่นคง

อย่างไรก็ตาม การทำบุญให้ตั้งขึ้นด้วยความสบายใจของเรา อย่าได้ยึดติดกับสิ่งของจำพวกนี้ เพราะเมื่อตั้งใจทำบุญแล้ว ย่อมได้ดีเท่ากันนั่นเอง แนะนำให้ทำบุญด้วยสิ่งของที่คิดว่า พระท่านน่าจะได้ใช้ของเหล่านั้นจริงจะดีที่สุด

15
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


หน้า: [1] 2 3 ... 51
ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google โฆษณาฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงโฆษณาฟรี google