การลดน้ำหนักเป็นเป้าหมายที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่หลายคนก็รู้สึกกังวลกับการอดอาหาร เพราะกลัวว่าจะหิวและทรมาน นอกจากนี้ การอดอาหารอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
สำหรับใครที่อยากลดน้ำหนักแต่ไม่อยากอดอาหาร สามารถทำได้ดังนี้
1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน โดยไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากเกินไป โดยควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนจากพืชหรือสัตว์ไขมันต่ำ
2. ลดปริมาณแคลอรี
การลดน้ำหนักจำเป็นต้องลดปริมาณแคลอรีที่ได้รับในแต่ละวัน โดยอาจลดปริมาณอาหารหรือเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรีต่ำลง เช่น เลือกกินข้าวกล้องแทนข้าวขาว เลือกกินเนื้อสัตว์ไม่ติดมันแทนเนื้อสัตว์ติดมัน เป็นต้น
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายช่วยเผาผลาญพลังงานและช่วยให้รูปร่างกระชับ โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น โดยควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
5. พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนความอิ่มและช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น โดยควรนอนหลับอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้โดยไม่ต้องอดอาหาร เช่น
รับประทานผักและผลไม้ก่อนมื้ออาหาร เพราะผักและผลไม้มีกากใยสูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น
เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ เพราะอาหารแปรรูปมักมีปริมาณไขมันและน้ำตาลสูง
หลีกเลี่ยงการกินอาหารระหว่างมื้อ
ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
การลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่าการอดอาหาร'
ประโยชน์ดีๆ จาก “ถั่ววอลนัท” ลดน้ำหนัก-คอเลสเตอรอล
คอเลสเตอรอล เป็นสาเหตุหลักของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ นาๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน ไขมันอุดตันเส้นเลือด ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดหัวใจตีบ และอื่นๆ อีกเพียบ ดังนั้นการควบคุมคอเลสเตอรอลในร่างกาย จึงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยต่างๆ นับสิบ
10 ประโยชน์ดีๆ จาก “ถั่ววอลนัท”
1. ลดคอเลสเตอรอลในเลือด ถั่ววอลนัทเต็มไปด้วยโฟเลต วิตามินอี และไขมันชนิดดี ถึงแม้ถั่ววอลนัทจะให้พลังงานสูง แต่ไม่ได้ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ปริมาณที่เหมาะสมคือ วันละ 1 กำมือ
2. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ ป้องกันเยื่อบุหลอดเลือดแดงอุดตัน
3. เป็นอาหารที่ให้พลังงาน ช่วยให้อิ่มท้อง แต่ไม่ทำให้อ้วน จึงเป็นอาหารสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ไม่อยากอ้วนลงพุง
4. มีไฟเบอร์ ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายให้ดีขึ้น
5. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสมอง หัวใจ และบำรุงผิวพรรณ
6. ป้องกันอาการความจำเสื่อม เพราะถั่ววอลนัทมีส่วนช่วยทำลายอนุมูลอิสระ และเคมีบางส่วน ต้นเหตุของโรคสมองเสื่อมได้
7. ลดความเครียด
8. ลดระดับความโลหิตที่สูง ให้กลับมาอยู่ในระดับที่สมดุลต่อร่างกาย
9. แก้อาการนอนไม่หลับ จากสารเมลาโทนินที่อยู่ในถั่ววอลนัทตามธรรมชาติ
แค่ถั่ววอลนัทวันละ 1 กำมือ ให้ประโยชน์แก่ร่างกายมากมายได้ขนาดนี้ เห็นทีวันนี้ต้องรีบวิ่งไปซื้อมาทานกันทั้งบ้านแล้วล่ะค่ะ เห็นด้วยไหม
อยากลดน้ำหนัก แต่ไม่อยากหิว ไม่อยากกินน้อย ต้องทำอย่างไร อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/