ผู้เขียน หัวข้อ: ฉนวนกันความร้อน แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและราคาแตกต่างกันอย่างไร  (อ่าน 24 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 698
    • ดูรายละเอียด
ฉนวนกันความร้อน แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและราคาแตกต่างกันอย่างไร

ฉนวนกันความร้อนแต่ละประเภทมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงราคาที่ผันแปรไปตามวัสดุ ความหนา ประสิทธิภาพ และแบรนด์ ซึ่งส่งผลต่อความคุ้มค่าในระยะยาวด้วยครับ

นี่คือการเปรียบเทียบฉนวนกันความร้อนที่นิยมใช้ในอาคาร โดยเน้นที่คุณสมบัติหลักและช่วงราคาโดยประมาณ (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามตลาด, ความหนา, ยี่ห้อ, และปริมาณการซื้อ ณ ปัจจุบันคือเดือนมิถุนายน 2568)

1. ฉนวนใยแก้ว (Fiberglass Insulation)

คุณสมบัติเด่น:
การกันความร้อน (R-Value): ดีถึงดีมาก (ขึ้นอยู่กับความหนา)
การระคายเคือง: อาจระคายเคืองผิวหนัง ดวงตา และระบบทางเดินหายใจระหว่างการติดตั้ง (ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน) แต่เมื่อติดตั้งแล้วไม่มีผลต่อผู้อยู่อาศัย
การทนไฟ: ไม่ลามไฟ, ไม่เป็นเชื้อเพลิง
การดูดซับเสียง: มีคุณสมบัติช่วยดูดซับเสียงได้ดี
น้ำหนัก: เบามาก ไม่เพิ่มภาระโครงสร้าง
ความชื้น: ไม่กันน้ำ หากโดนน้ำประสิทธิภาพจะลดลงและอาจเกิดเชื้อรา
รูปแบบที่พบ: แบบม้วน (Rolls), แบบแผ่น (Batts)
การใช้งานหลัก: ปูบนฝ้าเพดาน, บุในผนังเบา
ช่วงราคาโดยประมาณ:
ราคาต่อตารางเมตร (สำหรับปูฝ้า หนา 75-150 มม.): ประมาณ 50 - 150 บาท/ตร.ม.
ราคาต่อม้วน (สำหรับม้วนขนาดมาตรฐาน): ประมาณ 300 - 900 บาท/ม้วน (ขึ้นอยู่กับความหนาและขนาด)
ข้อสรุป: เป็นฉนวนที่ คุ้มค่าที่สุด สำหรับการกันความร้อนบนฝ้าเพดานและผนังทั่วไป ให้ประสิทธิภาพที่ดีในราคาที่เข้าถึงง่าย


2. ฉนวนใยหิน (Rockwool / Mineral Wool)

คุณสมบัติเด่น:
การกันความร้อน (R-Value): ดีเยี่ยม (ดีกว่าใยแก้วที่ความหนาเท่ากันเล็กน้อย)
การระคายเคือง: คล้ายใยแก้ว ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันระหว่างติดตั้ง
การทนไฟ: ไม่ติดไฟ และทนไฟได้สูงมาก (สูงกว่า 600°C) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยด้านอัคคีภัยสูง
การดูดซับเสียง: ดีเยี่ยม (ดีกว่าใยแก้ว)
น้ำหนัก: หนักกว่าใยแก้วเล็กน้อย
ความชื้น: ไม่กันน้ำ หากโดนน้ำประสิทธิภาพจะลดลง
รูปแบบที่พบ: แบบม้วน, แผ่น (Batts), แบบบอร์ดแข็ง (Slabs)
การใช้งานหลัก: ปูบนฝ้าเพดาน, บุในผนัง, งานอุตสาหกรรมที่ต้องการทนความร้อนสูงและกันเสียง
ช่วงราคาโดยประมาณ:
ราคาต่อตารางเมตร (สำหรับปูฝ้า หนา 75-150 มม.): ประมาณ 80 - 250 บาท/ตร.ม.
ราคาต่อม้วน/แผ่น: ประมาณ 300 - 1,700 บาท (ขึ้นอยู่กับความหนาและขนาด)
ข้อสรุป: เป็นฉนวนที่ ประสิทธิภาพสูง ทั้งกันความร้อนและกันเสียง พร้อมคุณสมบัติทนไฟที่โดดเด่น แต่มีราคาสูงกว่าใยแก้ว


3. ฉนวนโฟม PE (Polyethylene Foam - PE Foam)

คุณสมบัติเด่น:
การกันความร้อน (R-Value): ปานกลาง (ไม่สูงเท่าใยแก้ว/ใยหินที่ความหนาเท่ากัน)
การระคายเคือง: ไม่ระคายเคือง ปลอดภัยในการติดตั้ง
การทนไฟ: โดยทั่วไปติดไฟได้ (ต้องระบุชนิดที่มีสารหน่วงไฟ)
การดูดซับเสียง: พอใช้
น้ำหนัก: เบามาก
ความชื้น: กันน้ำ ไม่ดูดซับน้ำ โครงสร้างเซลล์ปิด
รูปแบบที่พบ: เป็นแผ่นโฟมบางๆ อาจมีอะลูมิเนียมฟอยล์ประกบ 1 หรือ 2 ด้าน
การใช้งานหลัก: ปูใต้หลังคา (โดยหงายฟอยล์ขึ้น), บุผนัง, ปูพื้น

ช่วงราคาโดยประมาณ:
ราคาต่อตารางเมตร (สำหรับความหนา 3-10 มม.): ประมาณ 40 - 150 บาท/ตร.ม. (ขึ้นอยู่กับความหนาและจำนวนฟอยล์)
ราคาต่อม้วน: ประมาณ 1,000 - 3,000 บาท (สำหรับม้วนขนาดใหญ่)
ข้อสรุป: ราคาประหยัด ติดตั้งง่าย กันน้ำได้ แต่ประสิทธิภาพการกันความร้อนอาจไม่สูงเท่าฉนวนใยแก้วที่ความหนาเทียบเท่ากัน ต้องมี Air Gap เพื่อให้ฟอยล์สะท้อนความร้อนได้ดี

4. ฉนวนพ่นโฟม PU (Spray Polyurethane Foam - SPF)

คุณสมบัติเด่น:
การกันความร้อน (R-Value): สูงที่สุด (ค่า R-Value ต่อความหนาสูงกว่าฉนวนทุกประเภท)
การระคายเคือง: ไม่มีเส้นใยฟุ้งกระจาย แต่มีกลิ่นสารเคมีระหว่างและหลังการติดตั้งใหม่ๆ
การทนไฟ: โดยทั่วไปมีคุณสมบัติหน่วงไฟ (Fire Retardant)
การดูดซับเสียง: ดี (โดยเฉพาะชนิดเซลล์เปิด)
น้ำหนัก: เบา
ความชื้น: กันน้ำ ไม่ดูดซับน้ำ (สำหรับเซลล์ปิด) และช่วยอุดรอยรั่วได้ดีเยี่ยม
รูปแบบที่พบ: ติดตั้งโดยการพ่นเท่านั้น
การใช้งานหลัก: ใต้หลังคา, ในโพรงผนัง, พื้นที่ที่ต้องการกันความร้อนและปิดกั้นอากาศรั่วไหลสูงสุด
ช่วงราคาโดยประมาณ:
ราคาต่อตารางเมตร: ประมาณ 400 - 800 บาท/ตร.ม. (ขึ้นอยู่กับความหนา และลักษณะพื้นที่)
ข้อสรุป: ประสิทธิภาพสูงสุด ไร้รอยต่อ แต่ ราคาสูงที่สุด และต้องติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ


5. แผ่นสะท้อนความร้อน (Aluminium Foil / Radiant Barrier)

คุณสมบัติเด่น:
การกันความร้อน: สะท้อนรังสีความร้อนได้ดีมาก (95-97%) แต่ไม่ได้ต้านทานการนำหรือการพาความร้อนโดยตรง
การระคายเคือง: ไม่มี
การทนไฟ: โดยทั่วไปไม่ลามไฟ แต่ต้องระวังสารเคลือบ
การดูดซับเสียง: ไม่มี
น้ำหนัก: เบามาก
ความชื้น: กันน้ำได้
รูปแบบที่พบ: เป็นแผ่นฟอยล์บางๆ อาจมีตาข่ายเสริมแรง
การใช้งานหลัก: ปูใต้กระเบื้องหลังคา (ต้องมีช่องว่างอากาศ), เสริมการทำงานของฉนวนอื่น

ช่วงราคาโดยประมาณ:
ราคาต่อตารางเมตร: ประมาณ 20 - 80 บาท/ตร.ม.
ราคาต่อม้วน: ประมาณ 800 - 3,000 บาท (สำหรับม้วนขนาดใหญ่)
ข้อสรุป: ราคาถูกที่สุด แต่ ต้องมีช่องว่างอากาศ และมักใช้เป็นตัวเสริม ไม่ใช่ฉนวนหลักเพียงอย่างเดียวในสภาพอากาศร้อน

ตารางสรุปโดยประมาณ (ราคาอาจผันผวน)
ประเภทฉนวน    คุณสมบัติเด่น           ราคาต่อ ตร.ม. (โดยประมาณ)       เหมาะกับการใช้งานหลัก
ใยแก้ว    กันร้อนดี, ไม่ลามไฟ, เบา, คุ้มค่า    50 - 150 บาท             ปูบนฝ้าเพดาน, บุผนังเบา
ใยหิน    กันร้อนดีเยี่ยม, ทนไฟสูงมาก, กันเสียงดี    80 - 250 บาท          ปูบนฝ้าเพดาน, บุผนัง (ต้องการกันเสียง/ไฟ), งานอุตสาหกรรม
โฟม PE    ราคาประหยัด, กันน้ำ, ติดตั้งง่าย    40 - 150 บาท      ปูใต้หลังคา (ต้องมี Air Gap), บุผนัง (ที่ไม่ต้องการ R-Value สูงมาก)
โฟม PU พ่น กันร้อนสูงสุด, ไร้รอยต่อ, อุดรอยรั่ว, กันเสียง, กันน้ำ 400 - 800 บาท    ใต้หลังคา (ให้ประสิทธิภาพสูงสุด), โพรงผนัง, พื้นที่ที่ต้องการป้องกันความร้อนและอากาศรั่วซึมอย่างสมบูรณ์แบบ
แผ่นสะท้อนความร้อน สะท้อนรังสีความร้อน, ราคาถูก, เบา    20 - 80 บาท            ปูใต้กระเบื้องหลังคา (ต้องมี Air Gap), ใช้ร่วมกับฉนวนหลักเพื่อเสริมประสิทธิภาพการสะท้อนรังสี

ส่งออกไปยังชีต
หมายเหตุ: ราคาเหล่านี้เป็นเพียงช่วงราคาโดยประมาณและอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามยี่ห้อ คุณภาพ ความหนา และโปรโมชั่น ณ วันที่ซื้อ การเลือกฉนวนควรพิจารณาจากประสิทธิภาพที่ต้องการและงบประมาณรวมทั้งค่าติดตั้งด้วย เพื่อให้คุ้มค่าที่สุดครับ

 

ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google โฆษณาฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงโฆษณาฟรี google